วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ศาสนาโซโรอัสเตอร์

ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (Zoroastrianism)


      ศาสนาโซโรอัสเตอร์เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน ในราว 600 หรือ 700 ปีก่อนค.ศ. มีความเชื่อแบบทวินิยม คือ อาหุรามัสดา เทพเจ้าแห่งแสงสว่างกับอังคระไมนยุ พญามารฝ่ายชั่วร้าย ศาสนานี้บูชาไฟในฐานะเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง หมายถึง ไฟผู้ให้กำเนิดแสงสว่างย่อมเผาผลาญสิ่งสกปรกให้เหลือแต่ความบริสุทธิ์ เปรียบเสมือนพระเจ้าประทับอยู่ที่ใด ที่นั่นย่อมมีแต่ความบริสุทธิ์ เชื่อว่าพระเจ้าแจ้งเรื่องราวต่างๆผ่านทาง "โซโรอัสเตอร์" ผู้เป็นศาสดาเท่านั้น
มีคัมภีร์อเวสตะ (ความรู้หรือความสงบ) เป็นคัมภีร์ศาสนา มี 5 หมวด หรือ 5 เล่ม เป็นคู่มือสำหรับใช้สวดมนต์ประจำวัน มีหลักคำสอน เชื่อเรื่องบุญ บาป นรกและสวรรค์ ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ถือธรรมเนียมมีสามี-ภรรยาคนเดียว ไม่ยอมรับลัทธิพราหมณ์ เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะต้องเดินข้ามสะพานแคบเหมือนนรก คนดีย่อมข้ามพ้นโดยปลอดภัยไปสู่อาณาจักรแสงสว่างของพระอาหุระมัสดะ ถ้าเป็นคนบาปจะถูกผลักตกลงจากสะพานลงสู่นรก เมื่อถึงวันพิพากษาจะมีผู้มาโปรด นามว่า สโยชันต์ มาชุบชีวิตทั้งหมด วิญญาณจะถูกนำไปฟังคำพิพากษาต่อหน้าเทพเจ้ามธรา ต้องผ่านทดสอบอีกหลายขั้นตอนจากเทพเจ้าสราโอษา และเทพเจ้ารัษนุ คนทำชั่วจะถูกลงโทษ คนทำดีจะได้ขึ้นไปอยู่บนดวงดาว ดวงจันทร์ และชั้นสูงสุดคือดวงอาทิตย์เพื่อไปอยู่กับอาหุรามัสดาในสวรรค์ชั่วนิรันดร์

ประวัติความเป็นมา

ประชาชนชาวอิหร่านและชาวอินเดีย มีบรรพบุรุษร่วมกันมาในอดีต สืบเชื้อสายมาจากชาวอารยัน ศาสนาของชาวอารยันมีพื้นฐานมาจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอิหร่านและของอินเดีย คือคัมภีร์อเวสตะ (Avesta) ของอิหร่าน และคัมภีร์พระเวทของอินเดีย มีเทพเจ้าองค์เดียวกันอยู่ในคัมภีร์อเวสตะของอิหร่านและคัมภีร์พระเวทของอินเดีย เช่น เทพเจ้ามิตรา ของอินเดียและของอิหร่านเรียกว่า ทพเจ้ามิธรา และพิธีบูชาไฟสังเวยพระเจ้าด้วยเหล้าศักดิ์สิทธิ์ในอินเดีย เรียกว่า โสม ในอิหร่านเรียกว่า โหม ชาวอารยันในอิหร่านได้แบ่งพระเจ้าของตนออกเป็น เทวะ เป็นคำในภาษาอินโด-อารยัน เช่นเดียวกับคำว่า ดีอุส ซึ่งหมายถึง ทางสวรรค์ และอสูร ซึ่งหมายถึงเทพมีอำนาจเร้นลับ

ศาสดา

โซโรอัสเตอร์ เกิดเมื่อ 628 ปี ก่อนค.ศ.เกิดในตระกูลของขุนนาง ในเมืองมีเดีย เป็นเมืองที่ไม่สำคัญและใหญ่โตนัก เศรษฐจิจในบริเวณเมืองนี้ขึ้นอยู่กับการทำปศุสัตว์ มีพวกนักร่อนเร่เลี้ยงสัตว์บุกรุกเข้ามาโจมตีประชากรที่ตั้งหลักแหล่งเลี้ยงสัตว์ในบริเาณนั้นเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้โซโรอัสเตอร์จึงถือว่าคนพวกนี้เป็นผู้รุกราน ทำผิดกฎระเบียบ และเรียกคนพวกนี้ว่า สาวกแห่งการโกหกมดเท็จ
โดยลักษณะของโซโรอัสเตอร์แล้วเชื่อกันว่าเขาเป็นพระนักบวช ผู้ได้รับโองการจากพระอหุระมาซดะ เทพเจ้าผู้ชาญฉลาด แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้สอนสัจจะ ปรากฏว่า คำสอนของโซโรอัสเตอร์ได้รับการขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและฝ่ายศาสนาของรัฐในบริเวณที่โซโรอัสเตอร์เข้าไปสั่งสอนศาสนาเมื่อโซโรอัสเตอร์เข้าใจว่าพระเจ้าอหุระมาซดะทรงบัญญัติสัจจะให้แต่โซโรอัสเตอร์ไม่ได้ทำลายความเชื่อในศาสนาเดิมของอิหร่าน ซึ่งเป็นศาสนานับถือพระเจ้าหลายองค์ อย่างไรก็ดี โซโรอัสเตอร์ให้เทพเจ้าอหุระมาซดะอยู่ที่ศูนย์กลางของราชอาณาจักรแห่งความยุติธรรมซึ่งมีสภาพเป็นอมตแม้โศโรอัสเตอร์จะปฏิรูปศาสนาเก่าแก่ของอิหร่านในปัญหาทางสังคม และเศรษฐกิจที่มีอยู่ในขณะนั้น คำสอนของโซโรอัสเตอร์ในตอนแรกได้รับการคัดค้านโต้แย้งจากฝ่ายที่โซโรอัสเตอร์เรียกว่าสาวกแห่งการโกหกมดเท็จ
โซโรอัสเตอร์ให้เทพเจ้าอหุระมาซดะ เป็นเทพเจ้าสูงสุด ห้ามทำการพลีกรรม เช่น สังเวยให้กับอหริมัน และเทวะ ซึ่งในสมัยก่อน ศาสนาโซโรอัสเตอร์ถือว่าเทพเจ้าเหล่านี้เป็นฝ่ายมีอำนาจชั่วช้า โซโรอัสเตอร์อาจพบว่า การปฏิบัติพลีกรรมด้วยวัว และเหล้าศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้เกิดการเมามายมากเกินไป ในการปฏิรูปในเรื่องนี้ โซโรอัสเตอร์มิได้ห้ามการเซ่นสังเวยพระเจ้าด้วยวิธีฆ่าสัตว์ เพียงแต่ห้ามมิให้เกิดความเมามายและความเจ็บไข้เพราะการทำพิธีกรรมเช่นนั้นโซโรอัสเตอร์ยังคงใช้ระบบการบูชาไฟไว้อย่างเดิม ซึ่งพิธีกรรมบูชาไปในเวลาต่อมา เป็นหน้าที่ของพระมากี เปลวไฟนิรันดรแห่งวิหารเปลงไฟเป็นหน้าที่ของพระต้องรักษาไว้มิให้ดับ และมีการบูชาไฟด้วยเหล้าศักดิ์สิทธิ์
ภายหลังที่โซโรอัสเตอร์ได้สอนให้กษัตริย์วิษทะสปะหันมานับถือศาสนาของตนแล้วโซโรอัสเตอร์ยังคงอยู่ในราชสำนักของกษัตริย์พระองค์นั้น และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในราชสำนักต้องหันมานับถือโซโรอัสเตอร์ตามพระองค์ โซโรอัสเตอร์มีอายุ 77 ปี ถึงแก่กรรมก่อน 551 ปีก่อน ค.ศ. สาเหตุแห่งการถึงแก่กรรมของโซโรอัสเตอร์ค่อนข้างจะสับสน ในตำราทางศาสนาหลายเล่มค่อนข้างจะไม่ตรงกัน แต่เชื่อกันว่าโซโรอัสเตอร์เสียชีวิตขณะคุกเข่าอ้อนวอนพระเจ้าในโบสถ์เพื่อขอชัยชนะจงเป็นของประชาชนของตน ขณะเกิดสงครามกับพวกตุราเนียน ทหารตุราเนียนคนหนึ่งย่องเข้าไปข้างหลังแล้วแทงโซโรอัสเตอร์ถึงแก่ชีวิต

คัมภีร์

อเวสตะ(Avesta) เป็นคัมภีร์ศาสนาโซโรอัสเตอร์แปลว่า ความรู้ แบ่งออกเป็น 5 หมวด หรือ คัมภีร์ 5 เล่ม ก็เรียก
1. ยัสนะ เป็นหมวดแรกที่มีความเก่าแก่และสำคัญมากที่สุด ประกอบด้วยคาถา 17 คาถา เขียนโดยโซโรอัสเตอร์ เป็นเรื่องการบูชาไฟและเทพเจ้าอาหุรามัสตา
2. วิสเปรัท เป็นหมวดว่าด้วยบทสวดบวงสรวงและอ้อนวอนเทพเจ้าต่างๆ
3.เวนทิทัท เป็นหมวดว่าด้วยเรื่องโลกและจักรวาล การทำสงครามระหว่างเทพเจ้าแห่งความมืด อหริมัน กับเทพเจ้าแสงสว่าง อาหุรามัสดา การตกนรกและการขึ้นสวรรค์ รวมทั้งระเบียบพิธีกรรมของนักบวชและประวัติศาสตร์ของโลกและวิญญาณ
4. ยัษฎส เป็นหมวดที่ว่าบทกวีสำหรับสวดบูชาและสรรเสริญทูตสวรรค์ จำนวน 21 องค์ และวีรบุรุษแห่งศาสนาโซโรอัสเตอร์
5. โขรท - อเวสตะ เป็นหมวดที่ว่าด้วยข้อความย่อคัมภีร์อเวสตะใช้เป็นคู่มือสำหรับศาสนิกโซโรอัสเตอร์ใช้สวดมนต์ประจำวัน
คัมภีร์อเวสตะ แปลว่า ความสงบหรือถ่ายโทษด้วยการบูชา เดิมจารึกไว้บนหนังโคพับแผ่นบ้าง จารึกไว้บนเขาโค จำนวน1,200 เขา

หลักธรรม

หลักคำสอนของศาสนาโซโรอัสเตอร์ มีเรื่องสำคัญอยู่ที่การดำรงไว้ซึ่งชีวิตและการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย ในการดำรงรักษาชีวิตไว้ คนเราจะต้องเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์และทำการเกษตรกรรม
ชีวิตภายหลังความตายถูกกำหนดขึ้นจากความสมดุล ระหว่างความดีกับความชั่วที่ผู้นั้นได้กระทำขณะมีชีวิตอยู่ รวมทั้งการใช้วาจาและความคิด มีวิธีการอยู่ 2 อย่างในการลบล้างความชั่วนั้น คือ การสารภาพบาป และไม่กลับมาทำอีก

ในคัมภีร์อเวสตะ กล่าวถึงหน้าที่ของมนุษย์ มี 3 ประการ ต่อไปนี้

1. ทำศัตรูให้เป็นมิตร
2. ทำคนชั่วให้เป็นคนดี
3. ทำคนโง่ให้เป็นคนฉลาด

นิกาย

นิกายของศาสนาโซโรอัสเตอร์มี 2 นิกาย คือ ชหันชหิส กับ กัทมิส แต่ความหมายและคำอธิบายของสองนิกายนี้ยังไม่แจ่มชัด แต่เท่าที่พิจารณาศัพท์ดูแล้ว ชื่อของนิกายทั้งสองนี้ใกล้กับชื่อคัมภีร์ที่เกิดขึ้นใหม่ ในสมัยต้นศตวรรษที่ 3 ได้มีการแปลคัมภีร์ของศาสนานี้เป็นภาษาปาลวี ซึ่งใช้ในเปอร์เซียสมัยนั้น คัมภีร์เมนอกิ ขรัท ว่าด้วยการที่พระเจ้าแจ้งเรื่องราวต่างๆลงมาทางศาสดาพยากรณ์ คือโซโรอัสเตอร์ นิกายกัทมิส น่าจะถือคัมภีร์นี้เป็นสำคัญ ส่วนอีกคัมภีร์หนึ่ง คือ ชะยิต -เน - ชะยิต ว่าด้วยพิธีกรรมต่างๆซึ่งนิกายชหันชหิส คงยึดมั่ยในคัมภีร์หลังนี้ นอกจากนี้ก็ยังไม่มีทางสันนิษฐานเป็นอย่างอื่น

พิธีกรรม

ในศาสนาโซโรอัสเตอร์มีพิธีกรรมสำคัญ คือ
1. พิธีปฏิญาณตนเข้านับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ เมื่ออายุครบ 7 ปี กับ 10 ปี และจะได้รับเสื้อและกฤชซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับกายตลอดชีวิต
2. พิธีกรรมบริสุทธิ์ คือ การทำให้บริสุทธิ์ 3 แบบ คือ
- พัทยับ ( Padyab ) การชำระล้าง
- นาหัน ( Nahan ) การอาบ
- บารีสนัม ( Baresnum ) เป็นพิธีกรรมที่กระทำในโอกาสและสถานที่พิเศษ


สัญลักษณ์




ศาสนาโซโรอัสเตอร์นิยมใช้รูปศาสดาโซโรอัสเตอร์และคบไฟในกระถางเป็นสัญลักษณ์ เพราะศาสดาโซโรอัสเตอร์บูชาไฟในฐานะเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ความเชื่อดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยโบราณของชาวเปอร์เซียนั้นเชื่อว่า โซโรอัสเตอร์ คือ ผู้มาไถ่บาปเหมือนแสงสว่างในวันใหม่ เชื่อกันว่า โซโรอัสเตอร์คือวิญญาณที่เทพเจ้าอาหุรมัสดาส่งลงมาแทนพระองค์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ผู้มีความทุกข์ ให้มากำเนิดที่เมืองมิเดีย ในเปอร์เซีย สถานที่ที่ประสูติของพระองค์เป็นถ้ำหรือคูหา ประสูติในวัน เหมายัน (winter solstice)ตรงกับ วันที่ 22-25 ธันวาคม โดยมีมนุษย์หญิงพรหมจารีเป็นผู้ให้กำเนิดภายหลังผู้คนพากันยกย่องให้เป็นเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์
พวก ปารซี ที่นับถือลัทธิบูชาไฟนี้ ยกย่องสุริยเทพว่า ทรงมีมหิทธานุภาพสูงสุด ต่อมาในช่วงหลังจึงเป็นเทพเจ้าถือกริชและคบเพลิง มีวัวกระทิงพาดไว้บนบ่า แสดงถึงแสงสว่างแห่งพระเจ้า ผู้ควบคุมจักรวาลตั้งแต่วันประสูติ

ตำนานเล่าว่า เทพเจ้าฆ่าวัวกระทิงตามคำบัญชาของสุริยเทพ โลหิตของพระองค์ถูกสายลมพัดพาและกระเซ็นลงบนพื้นดินกลายเป็นต้นข้าวทั่วไปหมดเป็นที่มาของประเพณีๆหนึ่ง ส่วนโลหิตของวัวเปรียบเสมือนทางช้างเผือก เส้นทางแห่งจิตวิญญาณและกำเนิดใหม่ โซโรอัสเตอร์เทพเจ้าผู้กำหนดฤดูกาลและความเป็นไปของสวรรค์
ชาวยิวเมื่อครั้งที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลนก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนานี้ด้วยเช่นกัน ถ้าติดตามพัฒนาการของศาสนายิวมาตลอดจะเห็นอิทธิพลของความเชื่อของศาสนาโซโรอัสเตอร์เริ่มปรากฏขึ้นในช่วงนี้นี่เอง
ศาสนาโซโรอัสเตอร์แพร่หลายเข้าไปจนถึงกรีกและเอเซียไมเนอร์ และเริ่มแพร่หลายในโรมันครั้งแรกในราว 204ปีก่อนค.ศ. หรือที่รู้จักกันในนาม "ศาสนามิถรา" นั่นเอง ศาสนาโซโรอัสเตอร์นี้ปัจจุบันยังมีคนนับถืออยู่บ้างในอิหร่าน และพวกโซโรอัสเตอร์ที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่นต่างก็ช่วยกันเผยแผ่ศาสนา เช่นใน รัฐโอเรกอน ชิคาโก บอสตัน ลอสแองเจอลิส สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ

ศาสนาของชาวเปอร์เซีย

ศาสนาดั้งเดิมของชาวเปอร์เซียเป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์และกสิกรรมแบบเรียบง่าย แต่ต่อมาก็มีศาสนาใหม่ ศาสนาโซโรแอสเตอร์เกิดขึ้น ศาสนานี้พัฒนาขึ้นผลงานของชายผู้หนึ่งชื่อว่า ซาราธุสตรา (Zarathustra) หัวใจของศาสนาโซโรแอสเตอร์อยู่ที่หนังสือศักดิ์สิทธิ์หรือพระคัมภีร์ เช่นเดียวกันกับศานายูดาย อิสลาม คริสต์ศาสนาและศาสนาของชาวตะวันออกอีกหลายศาสนา หนังสือศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้เรียกว่า พระคัมภีร์อาเวสตา (Avesta) ศาสนาโซโรแอสเตอร์มีลักษณะเป็นลัทธิทวินิยม สานุศิษย์ของศาสนานี้เชื่อในอำนาจสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งดีฝ่ายหนึ่งชั่ว พวกเขาเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งความดีเป็นเทพผู้สูงสุด ชื่อออร์มาซด์ (Ormazd) เทพองค์นี้มีพวกอัครเทวทูตและเทวทูตทั้งหลายเป็นบริวาร และเชื่อว่ามีเทพแห่งความชั่วองค์หนึ่งชื่อ อาห์ริมาน (Ahriman) มีภูตผีปีศาจเป็นบริวาร ศาสนาโซโรแอสเตอร์สอนว่า มนุษย์ควรจะปรนนิบัติรับใช้เทพแห่งความดี และทำตามประมวลกฎหมายอันสูงส่งซึ่งแสดงออกมาเป็นค่านิยมทางศีลธรรมแบบถ่อมตัว ศิษยานุศิษย์ของศาสนานนี้มีความเชื่อมั่นว่า ความตายไม่ใช่การสิ้นสุดคนชอบธรรมจะได้รับชีวิตใหม่เมื่อตอนที่เทพออร์มาซด์ทำสงครามชนะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น